• ผู้สนับสนุนหลัก อย่างเป็นทางการ สโมสรฟุตบอล แอสตันวิลล่า
  • เว็บไซต์เดิมพัน หุ้นส่วนอย่าง เป็นทางการ สโมสรฟุตบอล เอฟเวอร์ตัน

แอมบาสเดอร์ใหม่ ดาฟาเบท!


ปี 2014 หรือ ปีที่ 20 ของการแข่งขันฟุตบอลโลกที่กำลังจะเกิดขึ้นในช่วงมิถุนายนที่ประเทศบราซิล ดาฟาเบทยินดีที่จะประกาศแบรนด์แอมบาสเดอร์อย่างเป็นทางการในช่วงฟุตบอลโลกอย่าง หลุยส์ ฟิโก้ เค้าจะมาให้คำแนะนำเด็ดๆ แก่ผู้เล่นดาฟาเบทอย่างแน่นอน


ฟิโก้ ได้ลงแข่งทั้งหมด 579 นัดในการแข่งขันระดับสโมสร โดยการเข้าร่วมในทีมรีล มาดริด บาร์เซโลนา อินเตอร์มิลาน และสปอร์ติ้ง ลิสบอน เค้าได้รับการคัดเลือกให้ลงเล่นในฐานะนักเตะทีมชาติโปรตุเกสทั้งหมด 127 นัด และในฐานะกัปตันเค้าได้เคยพาทีมโปรตุเกสไปสู่รอบรองชนะเลิศในการแข่งขันฟุตบอลโลกในปี 2006 เค้าเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางในฐานะนักเตะที่ดีที่สุดในตำแหน่งมิดฟิลด์


สมัครเป็นสมาชิดาฟาเบท เพื่อรับสิทธิ์ในการติดตามบมสัมภาษณ์และโปรโมชั่นสุดพิเศษ โดยเฉพาะช่วงฟุตบอลโลกเราจะมีกิจกรรมการแข่งขันสำหรับสมาชิกดาฟาเบทเท่านั้น


สมัครสมาชิก!
  • อ่านบทสัมภาษณ์ของฟิโก้ว่าใครจะได้เป็นผู้ชนะในแชมเปี้ยนส์ลีก พรีเมียร์ลีก และลาลีกาในปีนี้

    interviewer

    เอาล่ะ หลุยส์,
    มันมีดราม่าเกิดขึ้นมากมายนับจากครั้งล่าสุดที่เราได้พูดคุยกัน ทั้งในพรีเมียร์ลีกอังกฤษ ลาลีกาสเปน และยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก เรากำลังเข้าสู่ช่วงโค้งสุดท้ายของทั้งสามรายการแล้ว เราจึงอยากจะให้คุณมาแชร์มุมมองกับผู้เล่นในเว็บไซต์ดาฟาเบทของเราหน่อย ว่าใครบ้างจะได้เป็นผู้ชนะในแต่ละรายการ

    Figo

    อย่างแรกเลย ผมคาดว่าจะมีผลการแข่งขันสุดช็อคเกิดขึ้นก่อนที่จะจบซีซั่น และมันจะเกิดขึ้นในทั้งสามรายการด้วย อันดับทีมในลีกท็อป 2 ของยุโรปนั้นใกล้กันมาก เมื่อดูตารางคะแนนของทั้งสองลีกแล้ว ผมว่าเราน่าจะได้เห็นดราม่าเพิ่มขึ้นอีกก่อนที่การแข่งขันแชมเปี้ยนส์ลีกจะสิ้นสุดลง

    interviewer

    มาดูที่พรีเมียร์ลีกกันก่อน โดยตารางคะแนนเป็นแบบนี้


    ลิเวอร์พูล 34 นัด คะแนนรวม 77 เหลืออีก 4
    เชลซี 34 นัด คะแนนรวม 75 เหลืออีก 4
    แมนซิตี้ 32 นัด คะแนนรวม 70 เหลืออีก 6
    เอฟเวอร์ตัน 33 นัด คะแนนรวม 66 เหลืออีก 5
    อาร์เซนอล 33 นัด คะแนนรวม 64 เหลืออีก 5
    Figo

    แน่นอนว่าตอนนี้เราเหลือแค่ 3 ทีมที่จะลุ้นแขมป์เมื่อดูจาก 4 นัดหลังสุดที่อาร์เซนอลลงแข่ง ซึ่งพวกเขาแพ้ 2 และเสมออีก 2 ทำแต้มหล่นไปถึง 10 คะแนน พวกเราดิ่งลงไปเร็วมากตั้งแต่โอซิลและแรมซี่ย์บาดเจ็บ ทั้งคู่ถือว่าโชว์ฟอร์มได้ยอดเยี่ยมมากในช่วงครึ่งแรกของฤดูกาล ผมรู้สึกว่าอาร์เซนอลน่าจะมองไปที่เอฟเอคัพมากกว่า หลังจากพวกเขาเข้ารอบชิงด้วยการเอาชนะวีแกนในการดวลลูกโทษ


    อย่างที่ผมเคยบอกไว้ในการสัมภาษณ์ครั้งล่าสุดว่า "เกมสำคัญจะตัดสินว่าใครได้เป็นแชมป์พรีเมียร์ลีก" และลิเวอร์พูลก็ได้โอกาสนั้นไป หลังจากเอาชนะแมนซิตี้ไปได้ 3-2 ทำให้พวกเขาได้เปรียบอย่างมากในการไล่ล่าแชมป์ครั้งนี้ พวกเขาต้องการเพียงชัยชนะ 2 จาก 4 เกมหลังสุดเพื่อเป็นแชมป์ แต่หนึ่งในนั้นคือการเปิดบ้านรับเชลซีในวันที่ 27 เมษายน


    ตอนนี้เชลซีก็น่าจะมุ่งเป้าไปที่แชมเปี้ยนส์ลีกมากกว่า โดยพวกเขาจะต้องเปิดบ้านเจอกับแอตเลติโก มาดริด ซึ่งจะลงแข่งในสัปดาห์ถัดไป ผมเลยไม่แน่ใจว่าพวกเขาจะโฟกัสไปที่การเอาชนะทั้งสองนัดได้หรือไม่


    ส่วนทางด้านแมนซิตี้ การพ่ายแพ้ต่อลิเวอร์พูลถือเป็นความเสียหายอย่างใหญ่หลวง และพวกเขายังมีเกมยากรออยู่ โดยจะต้องไปเยือนเอฟเวอร์ตันที่กำลังไล่ล่าพื้นที่แชมเปี้ยนส์ลีกจากอาร์เซน่อล หากแมนซิตี้ไม่อยากเสียแชมป์พรีเมียร์ลีกอีกครั้ง พวกเขาจะต้องภาวนาให้ลิเวอร์พูลสะดุดในช่วง 4 นัดที่เหลือ

    interviewer

    มองไปที่ตารางแข่งขันที่เหลืออยู่ของทีมลุ้นแชมป์ คุณคิดว่าทีมใดเจองานเบาที่สุดครับ?

    Figo

    เมื่อเดือนที่แล้วผมคิดว่าเชลซีน่าจะเป็นเต็งแชมป์ เมื่อดูจากแต้มของพวกเขาในตอนนั้น แต่หลังจากที่พวกเขาเอาชนะอาร์เซนอลได้แบบง่ายๆ 6-0 กลับไปแพ้ 1-0 ให้กับคริสตัล พาเลซ ในนัดถัดมา และตอนนี้พวกเขาก็เจอโปรแกรมการแข่งที่หินใช้ได้เลย คือการไปเยือนลิเวอร์พูลในวันที่ 27 เมษายน อย่างไรก็ตาม การที่เชลซียังไม่ตกรอบแชมเปี้ยนส์ลีกนั้นทำให้งานของพวกเขาหนักขึ้นเยอะเลยทีเดียว โดยเฉพาะการที่เกมกับลิเวอร์พูลอยู่ใกล้กับการแข่งขันรอบรองฯของบอลถ้วยใบใหญ่ของยุโรปมาก


    และอย่างที่เราเคยพูดคุยกันไปแล้ว ผมคิดว่าอาร์เซนอลที่เคยนำจ่าฝูงมาเป็นเวลานาน ได้ร่วงลงไปแล้ว และพวกเขาไม่มีลุ้นแชมป์แต่อย่างใด

    interviewer

    โค้ชของลิเวอร์พูล เบรนแดน รอดเจอร์ส ยังคงบอกว่าทีมของเขายังไม่ใช่ทีมที่จะเป็นแชมป์ คุณคิดเห็นอย่างไร?

    Figo

    เบรนแดน รอดเจอร์สมีสถิติที่ดีมากในการคุมลิเวอร์พูล และยิ่งชัดขึ้นไปอีกเมื่อพวกเขาเอาชนะแมนซิตี้ได้ 3-2 ในแอนฟิลด์ เมื่อผมมองไปที่ 4 เกมที่เหลือ ผมว่าเกมที่มีสิทธิ์พลิกได้มีแค่เกมเดียวคือเกมที่พวกเขาจะเปิดบ้านเจอเชลซี และอาจจะเจองานยากอีกนัดคือการเจอทีมที่ตั้งรับได้เยี่ยมอย่างคริสตัล พาเลซ ในวันที่ 3 พฤษภาคม ถ้าพวกเขาเอาชนะ 2 เกมนั้นได้ ก็มีโอกาสเป็นแชมป์สูงมาก มันเป็นความรู้สึกที่ดีนะที่ได้เห็นพวกเขาเล่นฟุตบอลได้อย่างมีคุณภาพในซ๊ซั่นนี้ โดยเฉพาะการที่ซัวเรซและสเตอร์ริดจ์ได้รับการสนับสนุนจากดาวรุ่งอย่างสเตอร์ลิ่ง


    และยังรวมไปถึงบทบาทใหม่ที่รอดเจอร์สมอบให้กับ สตีเว่น เจอร์ราด ที่มีส่วนอย่างมากในการคุมพื้นที่จุดสำคัญในสนาม คือตรงข้างหน้าของแบ็คโฟร์ลิเวอร์พูล

    interviewer

    จากจำนวนแมตช์ที่เหลืออยู่น้อยนิด คุณคิดว่าใครจะได้เป็นแชมป์พรีเมียร์ลีกครับ?

    Figo

    ผมเคารพในความสามารถและการวางแผนของ โชเซ่ มูรินโญ่ มากนะ แต่ผมคิดว่าเชลซีคงจะเน้นไปที่แชมเปี้ยนส์ลีกมากกว่า ดังนั้นผมจึงคาดว่าลิเวอร์พูลจะเป็นผู้ชนะในเกมวันที่ 27 เมษายน ที่จะได้ลงเล่นในบ้าน และประตูสู่แชมป์ก็จะเปิดกว้างขึ้น ผมจึงขอตอบว่าลิเวอร์พูลครับ

    interviewer

    มาดูกันที่ลาลีกากันบ้าง หลังจากที่คุณเก็งเอาไว้เมื่อคราวก่อน ก็มีผลการแข่งขันสุดช็อคมากมาย แต่ทีมลุ้นแชมป์ก็ยังเหลือ 3 ทีมเท่าเดิม โดยตำแหน่งในปัจจุบันของแต่ละทีมคือ


    แอตเลติโก มาดริด 33 นัด คะแนนรวม 82
    เรอัล มาดริด 33 นัด คะแนนรวม 79
    บาร์เซโลน่า 33 นัด คะแนนรวม 78
    Figo

    ผมรู้สึกเซอร์ไพรส์นะ ที่เห็นบาร์เซโลน่าเอาชนะเรอัล มาดริด ได้ในเอลกลาสิโกที่เบร์นาเบว และยิ่งไปกว่านั้นคือการที่เรอัลพลาดท่าให้เซบีญ่าในนัดถัดมา เกมแรกนั้นมีการฟาล์วเกิดขึ้นมากมาย และเรอัลก็โดนใบแดง และผมว่าการแพ้เซบีญ่าถือเป็นการสะดุดอย่างแท้จริง โดยอาจจะเป็นผลตกค้างมาจากการแพ้บาร์ซ่าด้วย


    ตั้งแต่นั้นมาเราก็ได้เห็นฟอร์มอันดุดันของแอตเลติโก มาดริด ไม่เพียงเฉพาะในลาลีกาเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงในแชมเปี้ยนส์ลีกด้วย ความจริงก็คือถ้าพวกเขาเอาชนะได้ใน 5 เกมที่เหลือ พวกเขาก็จะคว้าแชมป์ได้อย่างแน่นอน แต่ปัญหาก็คือเกมสุดท้ายที่พวกเขาจะต้องไปเยือนบาร์เซโลน่าที่คัมป์นู อย่างไรก็ตาม หลังจากบาร์เซโลน่าพ่ายอย่างสุดช็อคในการไปเยือนกรานาดา 1-0 เมื่อสัปดาห์ก่อน ทำให้แอตเลติโกต้องการชัยชนะอีก 4 นัดเพื่อมี 4 แต้มนำบาร์เซโลน่าเมื่อถึงตอนที่พวกเขาจะพบกันในนัดสุดท้ายของซีซั่น


    เรอัล มาดริด มีโปรแกรมที่ค่อนข้างสบายทีเดียวใน 5 เกมสุดท้าย และจะได้เล่น 3 นัดในบ้าน เกมที่น่าจะเป็นปัญหามีอยู่เกมเดียวคือการเขอบาเลนเซียในวันที่ 4 พฤษภาคม เมื่อถึงตอนนี้ ทีมที่ลุ้นแชมป์น่าจะเหลือแค่ 2 ทีมจากมาดริด แต่เราต้องไม่ลืมว่าพวกเขายังคงอยู่ในแชมเปี้ยนส์ลีกด้วยเช่นกัน โดยมี 2 เกมหนักที่จะต้องลงแข่งในเดือนนี้ เกมเหล่านี้อาจจะมีผลกระทบต่อทั้งคู่ได้

    interviewer

    หากดูจากเกมที่เหลืออยู่ คุณจะเลือกใครเป็นแชมป์ลาลีกาครับ?

    Figo

    เมื่อมองไปถึงโปรแกรมการแข่งขันลาลีกา เราต้องพิจารณาถึงการที่ 2 ทีมจากมาดริดอาจจะต้องลงเล่นอีก 3 เกมในแชมเปี้ยนส์ลีกด้วย และเกมที่เพิ่มขึ้นมาซึ่งเป็นเกมระดับสูงเหล่านี้อาจจะมีผลต่อเกมท้ายๆในลีกด้วย ก่อนหน้านี้ผมคิดว่าเรอัล มาดริด จะเป็นแชมป์ แต่เมื่อดูจากฟอร์มล่าสุด ผมคงเปลี่ยนฝั่งไปที่เพื่อนบ้านของ


    พวกเขา.......

    ...................................แอตเลติโก มาดริด.......... จะเป็นแชมป์

    interviewer

    ตอนที่คุณจับฉลากสำหรับแชมเปี้ยนส์ลีกรอบรองฯที่สวิตเซอร์แลนด์ คุณจับให้แต่ละทีมมาเจอกันใน 4 เกมที่น่าสนใจมากๆ โดยทีมจากมาดริดทั้งสองทีมได้เล่นในบ้านเลกแรก คุณคิดว่าเกมเหล่านี้จะจบลงอย่างไรบ้าง?


    เริ่มจาก........แอตเลติโก มาดริด พบ เชลซี

    Figo

    อย่างที่ผมคิดเอาไว้ เชลซีเก็บอเวย์โกลจากปารีส แซงต์ แชร์กแมง ได้และแม้พวกเขาจะแพ้ 3-1 ที่นั่น แต่ชัยชนะ 2-0 ในบ้านก็เพียงพอที่จะทำให้พวกเขาเข้ารอบรองชนะเลิศด้วย"กฎประตูทีมเยือน" เป็นผลการแข่งขันที่ยอดเยี่ยมสำหรับ โชเซ่ มูรินโญ่ และตอนนี้เขาก็อยู่ในตำแหน่งเดิมอีกครั้ง เพียงแต่ครั้งนี้คู่ต่อสู้คือแอตเลติโก มาดริด ที่ผ่านเข้ารอบมาแบบเดียวกัน ในการไปยิงประตูนัดเยือนบาร์เซโลน่าได้ และกลับมาเอาชนะ 1-0 ในบ้าน


    นัดนี้เชลซีน่าจะเป็นฝ่ายพยายามยิงที่มาดริดให้ได้ และกลับมาเล่นแบบพยายามไม่ให้เสียประตูในลอนดอน อย่างไรก็ตาม โค้ชซิเมโอเน่มีทีมที่กำลังท็อปฟอร์มอยู่ในมือ โดยนำจ่าฝูงลาลีกา 3 คะแนน และก็ยังเข้ารอบรองฯแชมเปี้ยนส์ลีกด้วย ในแมตช์ที่สูสีนี้ ผมขอเลือกไปที่เชลซี ซึ่งมีประสบการณ์ตรงจุดนี้มากกว่า

    interviewer

    ถัดมา....เรอัล มาดริด พบ บาเยิร์น มิวนิค

    Figo

    เกมนี้ผมคิดว่าน่าจะเป็นนัดชิงมากกว่า แต่ผมก็ดันจับ 2 ยอดทีมนี้มาเจอกันจนได้ เรอัล มาดริด เกือบจะพลาดท่าให้กับโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ในรอบก่อนรองฯ หลังจากพวกเขาเอาชนะ 3-0 ได้ที่มาดริด กลับมาแพ้ 2-0 ที่เยอรมัน จึงเอาชนะไปแค่ 3-2 ในผลรวม 2 นัด


    อย่างไรก็ตาม บาเยิร์น มิวนิค เอาชนะเลกที่ 2 ไปอย่างไม่ยากนัก โดยเอาชนะแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 3-1 หลังจากนัดแรกบุกไปเสมอมา 1-1 ทำให้ผ่านเข้ารอบด้วยผลรวมประตู 4-2 นี่เป็นเกมรอบรองฯที่น่าดูชมเป็นอย่างมาก โดยทีมที่มีเกมรุกที่สุดยอดทั้งสองทีมมาเจอกัน และยังคับคั่งไปด้วยสุดยอดผู้เล่นระดับโลกมากมาย ทั้งลาห์ม, ชไวสไตเกอร์, รอบเบน และริเบรี่ จากบาเยิร์น มินิก และโรนัลโด้, เบล, อลองโซ่ และเบนเซม่า สำหรับเรอัล มาดริด ต้องไม่ลืมว่าทั้งสองทีมมีสุดยอดผู้รักษาประตูอย่างนอยเออร์และกาซิยาส


    เกมนี้เป็นเกมที่ดีพอสำหรับเป็นคู่ชิง แต่ผมคงต้องเลือก เรอัล มาดริด

    interviewer

    ดังนั้น นี่น่าจะเป็นเกมรอบชิงที่ลิสบอนในวันที่ 24 พฤษภาคม


    เชลซี พบ เรอัล มาดริด


    คุณคิดว่าใครจะเป็นแชมป์ครับ?

    Figo

    เรอัล มาดริด

    อ่านหน้าถัดไป

  • บทสัมภาษณ์สุดพิเศษ แชมป์เปี้ยนส์ ลีก , พรีเมียร์ลีก และ ลา ลีกา จากมุมองของหลุยส์ ฟิโก้

    interviewer

    สวัสดีหลุยส์ ลูกค้าของดาฟาเบทชอบที่จะวางเดิมพันในการแข่งฟุตบอลพรีเมียร์ลีก ลาลีกา และก็ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีกมากๆ ขณะนี้ก็มาถึงช่วงท้ายของฤดูกาลแล้ว คุณพอจะมีคำแนะนำให้ลูกค้าของเราเกี่ยวกับสถานการณ์ที่เข้มข้นในขณะได้มั้ย?

    Figo

    "การแข่งขันค่อนข้างเข้มข้นมากในลีกระดับทอปของยุโรปทั้งสองลีกที่คุณพูดถึง เมื่อมองไปที่ตารางคะแนนแล้ว ผมคิดว่านี่จะเป็นการแย่งแชมป์ที่เฉือนกันแค่ปลายจมูก เรียกได้ว่าเป็นการแข่งขันที่สูสีที่สุดในรอบหลายปีเลยทีเดียว"

    interviewer

    มาดูตารางคะแนนพรีเมียร์ลีกกันเลย

    เชลซี เล่นไปแล้ว 31 นัด มี 69 คะแนน เหลือโปรแกรมอีก 7 นัด
    ลิเวอร์พูล เล่นไปแล้ว 30 นัด มี 65 คะแนน เหลือโปรแกรมอีก 8 นัด
    แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เล่นไปแล้ว 28 นัด มี 63 คะแนน เหลือโปรแกรมอีก 10 นัด
    อาร์เซนอล เล่นไปแล้ว 30 นัด มี 62 คะแนน เหลือโปรแกรมอีก 8 นัด
    Figo

    "แมตช์ที่สำคัญต่อการแย่งแชมป์พรีเมียร์ลีกน่าจะอยู่ที่ลิเวอร์พูล เพราะว่าในโปรแกรมที่เหลือ ทั้งแมนเชสเตอร์ ซิตี้และเชลซีต่างก็ต้องไปเยือนแอนฟิลด์ด้วยกันทั้งคู่ และแน่ใจได้เลยว่าลิเวอร์พูลจะต้องมอบเกมที่ยากลำบากให้ทั้งสองทีมแน่นอน

    ผมคิดว่าแมนเชสเตอร์ ซิตี้เป็นทีมที่มีโปรแกรมหนักที่สุดในบรรดาทีมแย่งแชมป์ด้วยกัน เพราะว่าพวกเขาต้องไปเยือนแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อาร์เซนอล ลิเวอร์พูล และเอฟเวอร์ตัน รวมถึงการต้องลงแข่งถึง 10 นัดในเวลาแค่ 7 สัปดาห์อีกด้วย แต่อย่างไรก็ตามพวกเขาก็มีข้อได้เปรียบตรงที่เป็นทีมใหญ่ที่มีตัวผู้เล่นให้เลือกใช้มากมายและผมแน่ใจว่าผู้จัดการอย่างเปเยกรินีจะจัดทีมได้อย่างเหมาะสมในช่วงเวลาสำคัญแบบนี้"

    interviewer

    แล้วคุณคิดว่าทีมไหนมีโปรแกรมช่วงท้ายที่สบายที่สุดล่ะ?

    Figo

    "แน่นอนว่าเป็นเชลซี พวกเขามีแต้มนำ รวมไปถึงเกมที่พวกเขาเพิ่งถล่มอาร์เซนอลไป ดูเหมือนว่าพวกเขาจะมีเกมที่ยากเหลืออยู่นัดเดียวนั่นคือนัดที่ไปเยือนถิ่นแอนฟิลด์ของลิเวอร์พูลในวันที่ 26 เมษายน อย่างไรก็ตาม การที่พวกเขาพลาดท่าพ่ายแพ้ต่อแอสตัน วิลลาเมื่อสัปดาห์ที่แล้วได้แสดงให้เห็นว่าสิ่งที่ไม่คาดคิดพร้อมที่จะเกิดขึ้นได้เสมอ และอย่าลืมว่าเชลซียังมีโปรแกรมแข่งขันในรายการยูฟ่า แชมเปียนส์ลีกที่จะดำเนินต่อเนื่องไปจนจบฤดูกาลอีกด้วย

    ส่วนอาร์เซนอลยังเหลืองานยากอีกสองนัดหลังจากนัดที่พ่ายแพ้ต่อเชลซีไปแบบหมดรูป คือนัดเปิดบ้านรับการมาเยือนของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ในวันที่ 29 มีนาคมนี้ และการออกไปเยือนเอฟเวอร์ตันในวันที่ 6 เมษายน"

    interviewer

    สตีเวน เจอร์ราร์ด กัปตันทีมของลิเวอร์พูลเพิ่งจะออกมาพูดเป็นครั้งแรกในฤดูกาลนี้ว่า ลิเวอร์พูลเป็นหนึ่งในทีมที่พร้อมจะแย่งตำแหน่งแชมป์ คุณคิดว่าพวกเขาภายใต้การบงการเกมของผู้จัดการทีมอายุน้อยอย่างเบรนแดน ร็อดเจอร์สมีศักยภาพพอสำหรับการที่จะทำเช่นนั้นหรือไม่?

    Figo

    "เบรนแดน ร็อดเจอร์สทำผลงานกับลิเวอร์พูลได้อย่างยอดเยี่ยมในฤดูกาลนี้ ยืนยันได้จากการที่พวกเขาถล่มทีมคู่ปรับอย่างแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดไปถึง 3-0 คาถิ่นโอลด์ แทรฟฟอร์ดไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ผมดูโปรแกรม 8 นัดที่เหลือของพวกเขาแล้ว พวกเขาจะได้ลงเล่นในบ้าน 5 นัด โดย 2 นัดจาก 5 นัดนั้นเป็นการลงเล่นในบ้านพบกับทีมแย่งแชมป์เช่นกันคือ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ในวันที่ 13 เมษายน และเชลซีในวันที่ 27 เมษายน ถ้าพวกเขาเก็บชัยชนะในทั้งสองนัดนั้นได้ จะเป็นการเพิ่มโอกาสลุ้นแชมป์ของพวกเขาได้มากเลยทีเดียว และพวกเขาก็มีคู่หน้าที่ยอดเยี่ยมอย่างซัสเรสและสเตอร์ริดจ์ที่ดูเหมือนว่าทั้งคู่จะทำประตูได้เป็นว่าเล่น"

    interviewer

    หลังจากที่ได้วิเคราะห์ข้อมูลของทีมลุ้นแชมป์ทั้งหมดแล้ว คุณคิดว่าทีมไหนจะเป็นแชมป์พรีเมียร์ลีกในท้ายที่สุด?

    Figo

    "ผมคิดว่าเป็นเชลซีนะ ผู้จัดการทีมอย่างโชเซ มูรินโญเป็นผู้จัดการที่มีความเจนจัดต่อสถานการณ์ที่ตึงเครียดเช่นนี้ รวมไปถึงนักเตะด้วยเช่นกัน"

    interviewer

    ลองมาดูฝั่งลาลีกากันบ้างดีกว่า ฤดูกาลนี้เป็นครั้งแรกในรอบหลายๆปีเลยที่มีทีมแย่งแชมป์ถึง 3 ทีม โดยสถานการณ์บนตารางคะแนนล่าสุดเป็นดังนี้

    เรอัล มาดริด เล่นไปแล้ว 30 นัด มี 70 คะแนน
    แอตเลติโก มาดริด เล่นไปแล้ว 30 นัด มี 67 คะแนน
    บาร์เซโลน เล่นไปแล้ว 30 นัด มี 66 คะแนน
    แอธเลติก บิลเบา เล่นไปแล้ว 30 นัด มี 52 คะแนน
    Figo

    "เราก็ต้องมองไปที่แมตช์สำคัญๆเหมือนเดิม เริ่มที่เอล กลาซิโก้ สุดสัปดาห์นี้ที่เรอัล มาดริดจะเปิดรังซานติอาโก้ เบร์นาบิว รับการมาเยือนของทีมคู่ปรับอย่างบาร์เซโลนา ผลการแข่งนัดนี้สำคัญมาก ผมเชื่อว่าทีมที่ชนะในเอล กลาซิโก้นัดนี้จะเป็นฝ่ายได้แชมป์ไปครองในที่สุด

    แต่อย่างไรก็ตาม ก็ยังมีโปรแกรมหนักๆเหลืออยู่สำหรับทีมหัวตารางทั้งสาม โดยแอตเลติโก มาดริด จะออกไปเยือนแอธเลติก บิลเบา ในวันที่ 29 มีนาคม และพวกเขาจะต้องออกไปเยือนบาร์เซโลนา ในวันที่ 17 พฤษภาคม วันปิดฤดูกาล ซึ่งทั้งสองแมตช์นี้จะเป็นแมตช์ที่ยากลำบากของพวกเขา

    สำหรับเรอัล มาดริด ดูเหมือนว่าพวกเขาจะมีโปรแกรมหนักเพียงแค่นัดเดียวเท่านั้นคือนัดที่ต้องออกไปเยือนเรอัล โซเซียดาด ในวันที่ 6 เมษายน"

    interviewer

    เมื่อดูจากโปรแกรมที่เหลือแล้ว คุณคิดว่าทีมไหนจะคว้าแชมป์ลาลีกาไปครองได้?

    Figo

    "เรายังไม่ได้พูดถึงโปรแกรมอื่นๆที่อาจส่งผลต่อฟอร์มการเล่นในเกมลีก ต้องไม่ลืมว่าทั้งสามทีมยังคงต้องลงเล่นในรายการยูฟ่า แชมเปียนส์ลีกอยู่

    อย่างไรก็ตาม ผมคิดว่าจากฟอร์มอันยอดเยี่ยมของพวกเขาในฤดูกาลนี้ เรอัล มาดริดจะเป็นทีมที่คว้าแชมป์ลาลีกาไปครองได้ในท้ายที่สุด"

    interviewer

    ทีนี้เราจะมาพูดถึงรายการแชมเปียนส์ลีกกันบ้าง หลังจากที่การจับฉลากจับคู่รอบแปดทีมสุดท้ายเสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้ว คุณคิดว่าแต่ละคู่จะมีผลอย่างไรบ้าง โดยพวกเขาจะทำการแข่งขันนวันที่ 1 และ 2 เมษายนสำหรับนัดแรก และวันที่ 8 และ 9 เมษายนสำหรับนัดที่สอง

    คู่แรก ปารีส แซงต์ แชร์กแมง พบกับ เชลซี

    Figo

    "คงต้องบอกว่าปารีสเป็นคู่แข่งที่โชเซ มูริณโญอยากเจอมากที่สุด ถึงแม้ว่าพวกเขาจะยกระดับฟอร์มการเล่นได้มากในฤดูกาลนี้ก็ตาม เชลซีน่าจะผ่านแมตช์นี้ไปได้อย่างไม่ยากเย็น ถ้าพวกเขาทำประตูได้ หรือแม้แต่ยันเสมอได้ในการแข่งขันนัดแรกที่บ้านของปารีส แซงต์ แชร์กแมง เพราะเราเห็นแล้วว่าเชลซีมีฟอร์มที่แข็งแกร่งมากๆในการลงเล่นที่สแตมฟอร์ด บริดจ์

    และผมก็เชื่อว่าพวกเขาจะทำได้ ผมคิดว่าเป็นเชลซีที่จะผ่านเข้ารอบสี่ทีมสุดท้าย"

    interviewer

    คู่ที่สอง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พบ บาเยิร์น มิวนิค

    Figo

    "แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดทำผลงานได้ย่ำแย่ที่สุดในรอบหลายปีในการแข่งขันพรีเมียร์ลีก และด้วยฟอร์มแบบนี้ คงต้องบอกว่าพวกเขาโชคร้ายที่ต้องมาพบกับทีมแชมป์เก่าอย่างบาเยิร์น มิวนิค ผมเชื่อว่าทีมเสือใต้จะเป็นฝ่ายเอาชนะและผ่านเข้ารอบต่อไปได้"

    interviewer

    เกมที่สาม เรอัล มาดริด พบ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์

    Figo

    "ถึงแม้ว่าพวกเขาจะทำผลงานได้ไม่ดีเท่าทีมคู่ปรับสำคัญอย่างบาเยิร์นในบุนเดสลีกา แต่ดอร์ทมุนด์ก็ผ่านมาถึงรอบแปดทีมสุดท้ายของแชมเปียนส์ลีกได้อีกครั้ง จากปีที่แล้วที่พวกเขาถูกเขี่ยตกรอบนี้ด้วยฝีมือของบาเยิร์น มิวนิค

    ฝั่งเรอัล มาดริด พวกเขามีผลงานที่ยอดเยี่ยมในฤดูกาลนี้ ด้วยฟอร์มอันโดดเด่นของคริสเตียโน่ โรนัลโดและแกเร็ธ เบล

    สำหรับคู่นี้ผมเชื่อว่าจะเป็นฝ่ายมาดริดที่ผ่านเข้ารอบไปได้"

    interviewer

    และคู่สุดท้าย บาร์เซโลนา พบ แอตเลติโก มาดริด

    Figo

    "เป็นแมตช์ที่น่าสนใจมาก เกือบจะเรียกได้ว่าเป็นดาร์บี้แมตช์ของยุโรปเลยก็ว่าได้ เมื่อสองทีมหัวแถวของตารางลาลีกามาพบกันเองในแชมเปียนส์ลีกรอบแปดทีมสุดท้าย ผมเชื่อว่าดีเอโก คอสต้า จะสร้างปัญหาให้แนวรับของบาร์เซโลนาได้ โดยเฉพาะกับมาสเคราโน่ แต่ปัญหาก็คือกองกลางของแอตเลติโกจะสามารถรับมือกับกองกลางของบาร์ซ่าอย่างอิเนียสต้า ซาบี และอัจฉริยะลูกหนังอย่างลิโอเนล เมสซีได้หรือไม่?

    จะเป็นแมตช์ที่ยากลำบากสำหรับทั้งสองทีม และผลการแข่งขันนัดแรกที่คัมป์นูจะตัดสินว่าทีมไหนจะได้ผ่านเข้ารอบต่อไป

    เป็นแมตช์ที่น่าสนใจ และผมคิดว่าจะเป็นฝั่งบาร์ซ่าที่ได้เข้ารอบเซมิไฟนอลต่อไป"

    interviewer

    และหลังจากนี้เราจะได้สี่ทีมที่ผ่านเข้าไปเล่นในรอบตัดเชือก การแข่งนัดแรกจะมีในวันที่ 22 และ 23 เมษายน ส่วนนัดที่สองจะแข่งในวันที่ 29 และ 30 เมษายน

    เชลซี
    บาเยิร์น
    เรอัล มาดริด
    บาร์เซโลนา

    ในสี่ทีมนี้ คุณคิดว่าใครจะเป็นคู่ชิงชนะเลิศในวันที่ 24 พฤษภาคม?

    Figo

    "เรายังต้องรอดูผลการประกบคู่รอบเซมิไฟนอลในวันที่ 11 เมษายน ที่เมืองนียง ประเทสสวิสเซอร์แลนด์

    แต่ไม่ว่าผลการประกบคู่จะออกมายังไง ผมคิดว่าทีมที่จะได้เข้ารอบชิงชนะเลิศที่เมืองลิสบอนในวันที่ 24 พฤษภาคม คือ

    เรอัล มาดริด กับ บาเยิร์น มิวนิค

    และมันจะต้องเป็นนัดชิงชนะเลิศที่ยอดเยี่ยมมากแน่ๆ!"

    อ่านหน้าถัดไป อ่านหน้าถัดไป

  • บทสัมภาษณ์แรก– สิ่งที่แฟนบอลไม่ควรพลาด!

    interviewer

    หลุยส์ เรายินดีต้อนรับคุณในฐานะแบรนด์แอมบาสเดอร์ศึกฟุตบอลโลก 2014 อย่างเป็นทางการของเว็บดาฟาเบท ขอเริ่มคำถามแรกว่าอะไรที่สิ่งที่คุณประทับใจมากที่สุดในฐานะกัปตับกับการแข่งขันฟุตบอลโลกรอบรองชนะเลิศ ปี 2006 ครับ

    Figo

    สิ่งที่ผมประทับใจคือ เรามีทีมที่ยอดเยียมในการแข่งขันในปีนั้น แม้ว่าสิ่งที่ทำให้เราพลาดเข้าไปสู่รอบชิง คือลูกโทษของซีเนดีน ซีดาน แต่ไม่ว่างยังไงตอนนี้ ผมรู้สึกดีใจและขอบคุณคริสเตียโน โรนัลโด้ที่ทำ 3 ประตูในนัดที่เจอกับสวีเดน ทำให้ทีมโปรตุเกสผ่านเข้ารอบสุดท้ายในศึกฟุตบอลโลกที่จะทำการแข่งขันกันที่บราซิลในปีหน้า

    interviewer

    อย่างที่ทราบกันว่าตอนนี้ก็มีการแบ่งกลุ่มการแข่งขันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว อยากจะให้คุณลองบอกแฟนๆดาฟาเบทหน่อยสิครับว่า ในแต่ล่ะกลุ่มทีมใดที่จะเป็นผู้ชนะทีมใดจะเป็นผู้แพ้

    Figo

    สำหรับในกลุ่ม เอ มี บราซิล โครเอเชีย เม็กซิโก และแคเมอรูน ผมรู้สึกว่าจะมีบางอย่างที่น่าสนุก น่าลุ้นมากกว่าที่ผู้เล่นคาดเอาไว้ เนื่องจากมีนักเตะผีเท้าดีหลายคน อย่าง เนย์มาร์ และ ออสการ์ จากบราซิล ลูคา โมดริช โครเอเชีย ซามูแอล เอโตจากแคเมอรูนและ โอริเบ เพรัลตาจากเม็กซิโก อย่างไรก็ตามผมคิดว่าบราซิลน่าจะเป็นผู้นำในกลุ่มนี้และรองก็น่าจะเป็นแคเมอรูน

    กลุ่มบี นี่ต้องบอกว่าน่าสนใจมาก เนื่องจากว่าเป็นการกลับมาพบกันของสองทีมสุดท้ายจากการแข่งขันฟุตบอลโลกครั้งล่าสุดอย่างสเปนและฮอลแลนด์ ซึ่งจะพบกันวันที่ 13 มิถุนายน หรือวันที่สองของการแข่งขัน และนอกจากนี้ในกลุ่มนี้ยังมีชิลีและออสเตรเลีย แต่ทีมที่ผมคิดว่าน่าจะผ่านเข้ารอบ ผู้นำกลุ่มก็คงจะเป็นสเปนและมีฮอลแลนด์ตามมาติดๆ

    กลุ่มซี มี โคลอมเบีย กรีซ ไอเวอรีโคสต์ และญี่ปุ่น และดูเหมือนในกลุ่มนี้จะเป็นเกมส์ง่ายๆสำหรับโคลอมเบีย โดยเฉพาะแมตช์สุดท้ายที่จะเป็นการแข่งกับญี่ปุ่นที่ Cuiaba บริเวณที่มีอุณหภูมิสูงกว่า 40 องศา ผมคิดว่าไอเวอรีน่าจะเป็นทีมที่ที่ต่อมาที่ผ่านเข้ารอบต่อไป เนื่องจากทีมนี้เป็นทีมที่มีผู้เล่นเจ๋งๆอย่าง ยาย่า ตูเร และดีดีเย ดรอกบา

    นักเตะที่แฟนๆดาฟาเบทจะต้องจับตาดูน่าจะเป็นกองหน้าสุดเจ๋งจากโคลัมเบีย คือ รามาเดล ฟัลกาโอ

    interviewer

    แล้วสำหรับกลุ่มดีล่ะครับ หลายๆคนมองว่าเป็นกลุ่มแห่งความตายสำหรับแฟนบอลชาวอังกฤษ เพราะกลุ่มนี้มีทั้ง อุรุกวัย คอสตาริกา อังกฤษและอิตาลี ในมุมมองของคุณมองว่ายังไงครับ สำหรับกลุ่มดี

    Figo

    ผมเองมองว่ามันก็คงเป็นเรื่องยากสำหรับการที่จะลุ้นเข้ารอบต่อไปของอังกฤษครับ โดยเฉพาะการเจอกันนัดแรกที่ต้องเจอกับอิตาลีที่มาเนาส์ ในวันที่ 14 มิถุนายน เป็นสถานที่ที่เกือบจะอยู่ที่ใจกลางของป่าอเมซอน ซึ่งเป็นที่ที่มีความชื้นสัมพันธ์ที่ 99% ซึ่งน่าจะมีผลโดยตรงต่อผู้เล่นทุกคน และหลังจากแมตช์นี้ 5 วันให้หลังอังกฤษก็ต้องพบกับอุรุกวัยที่เซาต์เปาโล ในขณะที่อิตาลีได้วันพักพิเศษก่อนแข่งกับคอสตาริกา และสิ่งที่น่าสนใจอีกอย่างก็น่าจะเป็นฟอร์มการเล่นของนักเตะฟอร์มร้อนแรงอย่าง ซัวเรส และ คาวานี จากอุรุกวัย รวมถึง มาริโอ บาโลเตลลี่ จากอิตาลี

    จากการมองภาพรวมทั้งหมด ผมคิดว่าทีมที่เป็นจ่าผูงของกลุ่มนี้ก็น่าจะเป็นอุรุกวัยและตามมาด้วยอิตาลี ส่วนอังกฤษผมมองว่าอาจจะต้องกลับบ้านก่อนที่ควรจะเป็น

    สำหรับกลุ่มอีที่ประกอบไปด้วยสวิตเซอร์แลนด์ เอกวาดอร์ ฝรั่งเศสและฮอนดูรัส ในกลุ่มนี้ก็คงจะไม่ต่างกับกลุ่มซี สำหรับผู้นำก็น่าจะเป็นเรื่องง่ายๆที่จะผ่านเข้าสู้รอบต่อไปสำหรับเอกวาดอร์และฝรั่งเศส อย่างฝรั่งเศสก็น่าจะได้รับชัยชนะในแมตซ์แรกจากการเจอกันฮอนดูรัส ในวันที่15 มิถุนายน และในแมตช์ในวันที่ 20 มิถุนายน ที่ต้องเจอกับสวิตเซอร์แลนด์ ก่อนที่ทั้งฝรั่งเศสกับเอกวาดอร์จะต้องมาเจอกัน ตอนนั้นทั้งสองทีมก็คงจะเป็นทีมที่ผ่านเข้าไปรอบต่อไปแล้ว สำหรับนักเล่นที่น่าจับตามองจากเอกวาดอร์ก็น่าจะเป็น อันโตนิโอ บาเลนเซีย และเฟลิเป้ ไซเซโด้ และ ฟร็องก์ รีเบรี , คาริม เบนเซมา และพอล ป็อกบา จากฝรั่งเศส

    interviewer

    ผมมั่นใจมากกว่าทุกคนก็คงจะคาดหวังให้เมสซีแสดงผลงานในฟุตบอลโลกเหมือนกับที่ผ่านมาในระหว่างการเล่นให้บาร์เซโลนา เค้าได้เป็นตัวสำรองในปี 2006 และก็พลาดในการทำสกอร์ปี 2010 คุณคิดว่านี่จะเป็นเวลาของเมสซีที่จะโชว์ฟอร์มในฟุตบอลโลกครั้งนี้

    Figo

    จริงๆแล้ว มันก็เป็นสิ่งที่ควรจะเป็นสำหรับลีโอเนล เมสซี่นะผมว่า โดยเฉพาะเมื่อเรามองถึงความอ่อนแอของกลุ่มเอฟอย่าง บอสเนีย เฮอร์เซโกวีนา อิหร่านและไนจีเรีย และยิ่งการที่เมสซีมีเพื่อนร่วมทีมที่มีพรสวรรค์อย่าง อังเคล ดิ มาเรีย, เซร์คีโอ อะกูเอโร, กอนซาโล อีกวาอิน ผมคิดว่าเค้าน่าจะสามารถเพอร์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมทีเดียวสำหรับฟุตบอลโลกปีนี้

    แฟนบอลจากดาฟาเบททั้งหลายจะต้องมองกองหน้าจากไนจีเรีย อย่าง โอบิเฟมี มาร์ตินส์และวิคเตอร์ โอบินน่า น่าจะเป็น 2 ผู้เล่นที่จะพาทีมผ่านผ่านเข้ารอบอันดับสองของกลุ่ม เพราะทั้งคู่คุ้นเคยกับสภาพอากาศเป็นอย่างดี ซึ่งถือว่าเป็นข้อได้เปรียบครับ

    interviewer

    อย่างที่คุณได้บอกมาก่อนหน้านี้ว่า โปรตุเกสน่าจะเป็นทีมที่ผ่านเข้ารอบและน่าจะชนะสวีเดน แล้วคุณว่าภาพรวมของกลุ่มนี้จะเป็นอย่างไรครับ

    Figo

    กลุ่มจี เป็นกลุ่มที่มีทีมที่แกร่งที่สุดในศึกฟุตบอลโลกอย่างเยอรมัน และในปีนี้ก็เช่นกันเพราะพวกเค้ายังคงเป็นทีที่มีผู้เล่นที่ดี เช่น เมซุท เออซิล, โธมัส มุลเลอร์, มาริโอ้ โกเมซ และ มีโรสลาฟ โคลเซ่และกองหลังที่แข็งแกร่งอย่าง ฟิลิปป์ ลาห์ม, แพร์ แมร์เตซัคเกอร์ และบัสเตียน ชไวน์ชไตเกอร์ ในแมตช์แรกของกลุ่มนี้เป็นนัดที่น่าสนใจมากๆ เพราะเป็นการเจอกันของเยอรมันกับโปรตุเกส ในวันที่ 16 มิถุนายน โปรตุเกสคงรับเกมส์รุกจากเยอรมันด้วยกองหลังอย่าง เปเป้, ฟาบิโอ โคเอนเทรา และบรูโน่ อัลเวส แต่สำหรับกองหลังของเยอรมันจะสามารถหยุด คริสเตียโน โรนัลโด้, นานี่ และฮูโก้ อัลเมย์ด้า หรือไม่นั่นก็เป็นสิ่งที่น่าสนใจ

    ผมแน่ใจว่า ทั้งสองทีมน่าจะมีฟอร์มการเล่นที่ใกล้เคียงกันครับ แต่ยังไงผมก็เชียร์โปรตุเกสครับ

    อีกสองทีมที่โปรตุเกสจะต้องเจอก็คือกาน่าและอเมริกา โดยจะเจอกับอเมริกาวันที่ 22 มิถุนายน ที่ และหลังจากนั้น 4 วันจะพบกับกาน่าในวันที่ 26 มิถุนายน โดยจะเป็นแมตช์สุดท้ายของทีม

    กลุ่มสุดท้าย กลุ่มเอช ประกอบด้วย เบลเยียม แอลจีเรีย รัสเซีย และเกาหลีใต้ ก็น่าจะเป็นเรื่องง่ายสำหรับเบลเยียมและรัสเซียตามลำดับ ส่วนแมตช์ที่น่าสนใจก็น่าจะเป็น การเจอกันของเบลเยี่ยมและรัสเซียในวันที่ 22 มิถุนายน

    แฟนบอลจจะต้องจับตาดู เอเดน อาซาร์ และ โรเมลู ลูกากู จากเบลเยี่ยมและ อเล็กซานเดอร์ เคอร์ชาคอฟ จากรัสเซีย

    interviewer

    คำถามสุดท้ายแล้วครับ หลุยส์ อย่างที่คุณได้มองว่ามีทีมที่จะต้องกลับบ้านก่อนอย่าง เม็กซิโก ชิลี อังกฤษและกาน่า มีทีมไหนที่คุณพอจะบอกได้ไหมว่าที่อาจจะยังพอมีลุ้นครับ

    Figo

    ถ้าโชคเข้าข้างผมก็คิดว่าน่าจะเป็น เม็กซิโกครับ ถ้าพวกเค้าสามารถเอาชนะแคมเมอรูนได้ในแมตช์ที่เจอกันันที่ 13 มิถุนายน แต่ถ้าไม่ก็คงต้องเก็บของกลับบ้านไปก่อนครับ

    อ่านหน้าถัดไป อ่านหน้าถัดไป

  • อ่านความเห็นของฟิโก้ว่าใครจะเป็นผู้ชนะในแชมเปี้ยนส์ลีก, พรีเมียร์ลีก และลาลีกาประจำปีนี้

    interviewer

    หลุยส์ครับ คุณทำนายไว้ว่า “จะมีดราม่าเกิดขึ้นอีกก่อนที่จะได้แชมป์” และเราก็มีสิ่งนั้นเกิดขึ้นในพรีเมียร์อังกฤษ ลาลีกาสเปน รวมถึงแชมเปี้ยนส์ลีกด้วย

    Figo

    ใช่ครับ ผมคาดไว้ว่าจะมีผลการแข่งขันสุดช็อคเกิดขึ้นในช่วงท้ายของซีซั่นแบบนี้ แต่คงไม่มีใครคาดว่าทีมอย่างซันเดอร์แลนด์และคริสตัล พาเลซ จะมีส่วนสำคัญในการตัดสินแชมป์พรีเมียร์ลีก หรือแม้กระทั่งทีมอย่างเกตาเฟ่และเลบานเต้ด้วยเช่นกัน พวกเขาทำให้การไล่ล่าแชมป์ของทีมยักษณ์ใหญ่ 2 ทีมต้องพลิกผันไป ฟอร์มของซันเดอร์แลนด์ในช่วยท้ายนี้เป็นอะไรที่สุดยอดมาก และพวกเขาก็เป็นทีมหนึ่งที่เหวี่ยงถ้วยพรีเมียร์ลีกไปมาจากอีกทีมสู่อีกทีมในระหว่างที่พวกเขาหนีตกชั้น การเอาชนะเกมเยือนที่เชลซีกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และเสมอในการเยือนแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้นั้นเป็นผลการแข่งขันที่ยิ่งใหญ่จริงๆ และผู้จัดการทีม กุสตาโว โปเยต์ สมควรได้รับเครดิตอย่างมากกับแนวทางที่เขากระตุ้นลูกทีมให้โชว์ฟอร์มได้ขนาดนี้


    อีกทีมก็เหมือนกัน คริสตัล พาเลซ ภายใต้การคุมของ โทนี่ พูลิส ได้พิสูจน์แล้วว่าพวกเขาไม่ใช่หมูให้เคี้ยวง่ายๆ การกลับมาของพวกเขาหลังตามลิเวอร์พูล 3-0 กลับมาเสมอ 3-3 ได้นั้นเป็นการแสดงออกถึงทัศนคติของทีมตั้งแต่พูลิสเข้ามาคุมเมื่อปลายเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว ตอนนั้นพวกเขายังอยู่ในโซนตกชั้นอยู่เลย น่าเสียดายที่นั่นอาจจะเป็นจุดจบของวามหวังถ้วยพรีเมียร์ของลิเวอร์พูล

    interviewer

    แต่แน่นอนว่าสิ่งที่ช็อคที่สุดคือฝั่งสเปน โดยเฉพาะเมื่อสุดสัปดาห์ที่แล้ว เมื่อไม่มีทีมใดใน 3 อันดับแรกสามารถเอาชนะได้เลย

    Figo

    ผมเตือนแล้วว่าแชมเปี้ยนส์ลีกรอบรองฯจะส่งผลต่อทั้งเรอัล มาดริด และแอตเลติโก มาดริด ซึ่งผ่านเข้าไปสู่รอบชิงได้ เมื่อเกตาเฟ่ยันเสมอบาร์เซโลน่า ประตูสำหรับ 2 ทีมจากมาดริดได้เปิดกว้าง แต่ทีมแรกคือแอตเลติโกกลับแพ้เลบานเต้คาบ้าน หลังจากนั้นเรอัล มาดริด ก็ทำได้แค่เสมอในบ้านกับบาเลนเซีย ด้วยประตูมหัศจรรย์ของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ในช่วงทดเจ็บและจบด้วยสกอร์ 2-2


    สำหรับผมนั้นไม่ประหลาดใจเท่าไหร่นักที่ทีมจากมาดริดทั้งสองทีมต้องเจอผลกระทบจากการลงเล่นแชมเปี้ยนส์ลีกรอบรองฯ ซึ่งแอตเลติโก มาดริดต้องเจอเชลซีเหย้า-เยือน และเรอัล มาดริดต้องเจอบาเยิร์น มิวนิค แบบเหย้าเยือนอีก


    ดูจากตารางการแข่งขันของแชมเปี้ยนส์ลีกและลีกในประเทศในช่วงท้าย ผู้ที่ทำผลงานได้ดีในทั้งสองรายการจะต้องลงเล่นแมตช์หนักๆถึง 4 แมตช์ในช่วงเวลาเพียง 12-13 วัน และนั่นคือแรงกดดันที่ไม่ใช่น้อยๆเลย คนจัดตารางของทั้งสองรายการควรจะพิจารณาปรับเปลี่ยนมัน เพื่อที่จะให้ทีมที่ทะลุเข้าเซมิไฟนอลของแชมเปี้ยนส์ลีกได้มีเวลาพักฟื้นอย่างเพียงพอ

    interviewer

    เมื่อเรามองไปที่โค้งสุดท้ายของทั้งสองลีก คุณคิดว่าใครจะได้เป็นแชมป์ครับ?

    เริ่มที่พรีเมียร์ลีกก่อนเลย

    Figo

    ทีมท้ายตารางพรีเมียร์ลีกทำผลงานได้น่าเจ็บแสบมาก หลังซันเดอร์แลนด์บุกไปเอาชนะเชลซีและเสมอแมนซิตี้ นอริชยันเสมอเชลซี และแน่นอนว่าที่ช็อคล่าสุดคือคริสตัล พาเลซ ที่โกงความตายกลับมาตีเสมอลิเวอร์พูลได้จากที่ตามอยู่ 0-3


    นั่นทำให้แมนเชสเตอร์ ซิตี้ดูจะมีภาษีดีที่สุด จากการที่เพิ่งเอาชนะแอสตัน วิลล่า มาได้ในบ้าน พวกเขาต้องการเพียงเปิดบ้านเอาชนะเกมสุดท้ายกับเวสต์แฮม ยูไนเต็ด ซึ่งไม่ใช่เกมที่ธรรมดาเลยสำหรับช่วงเวลานี้ของซีซั่น แต่อย่างที่ผมเคยพูดให้ในการสัมภาษณ์ก่อนหน้านี้ ผู้จัดการทีมอย่างเปเยกรินี่มีทีมที่เจ๋งมาก และนั่นทำให้ซิตี้สามารถผ่านพ้นการแข่งขันในช่วงท้ายมาได้


    ผมไม่คิดว่าพวกเขาจะพลาดเองในนัดสุดท้ายนะ และผมมองว่าพวกเขาจะได้แชมป์ในวันที่ 11 พ.ค.นี้

    interviewer

    และเมื่อเรามาดูที่ลาลีกา คิดว่าจะมีอะไรน่าตกใจเกิดขึ้นอีกมั้ยครับ?

    Figo

    ผมว่าในตอนนี้เราพอจะมีเวลาพักหนึ่งก่อนจะถึงรอบชิงแชมเปี้ยนส์ลีก ฉะนั้นเราน่าจะมองถึงแนวโน้มในนัดต่อไปของ 3 อันดับแรกได้ง่ายขึ้น


    เรอัล มาดริด
    หลังจากพวกเขาเสมออย่างน่าผิดหวังกับเรอัล บายาโดลิด เรอัล มาดริดก็สูญเสียโอกาสที่ดีในการค้วาดับเบิ้ลแชมป์ ทั้งลาลีกาและโคปาเดอเรย์ไป ตอนนี้พวกเขาตามบาร์เซโลน่าอยู่แต้มเดียว 84-85 และทั้งหมดเหลืออีก 2 นัดให้ลงเล่น ผมคิดว่าเรอัล มาดริด สามารถเอาชนะได้ทั้งสองนัด ซึ่งจะไปเยือนเซลตา บีโก และเฝ้าบ้านรอรับเอสปันญ่อล แต่นั่นก็จะทำให้พวกเขาจบฤดูกาลที่ 90 คะแนนเท่านั้น


    แอตเลติโก มาดริด และ บาร์เซโลน่า
    ผมจับสองทีมนี้มาอยู่คู่กันเนื่องจากเกมที่สุดสำคัญคือเกมสุดท้ายที่ทั้งคู่จะต้องพบกันที่คัมป์นูในวันที่ 18 พ.ค. ผมคิดว่านี่น่าจะเป็นนัดตัดสินแชมป์ หากทั้งคู่สามารถเอาชนะในเกมก่อนหน้าได้ โดยแอตเลติโกจะเล่นในบ้านกับมาลาก้า และบาร์เซโลน่าจะไปเยือนเอลเช่ ซึ่งจะทำให้แอตเลติโกมี 91 แต้ม และบาร์เซโลน่ามี 88 แต้ม หากบาร์ซ่าชนะจะทำให้พวกเขามี 91 แต้ม ส่วนทางฝั่งแอตเลติโก หากพวกเขาเอาชนะหรือเสมอได้ จะทำให้พวกเขาเป็นแชมป์ในทันที


    อย่างไรก็ตาม ถ้าทั้งคู่จบที่ 91 แต้ม จะทำให้ต้องนำกฎ”เฮดทูเฮด”มาใช้

    interviewer

    น่าสนใจมาก แต่มันจะถูกนำมาใช้ตัดสินยังไงครับ?

    Figo

    ในสเปนจะไม่เหมือนกับพรีเมียร์ลีก โดยแชมป์จะถูกตัดสินด้วยกฎ”เฮดทูเฮด”ระหว่างทั้งสองทีม พูดอีกแบบก็คือ พวกเขาทำได้กี่คะแนนในการพบกันเองตลอดซีซั่น


    ตอนนี้เรามี 2 สโมสรที่ไล่ล่าแชมป์อยู่ และถ้าบาร์ซ่าเอาชนะแอตเลติโกในเกมสุดท้ายได้ ทั้งคู่จะมี 91 แต้มเท่ากัน แต่บาร์ซ่าจะได้แชมป์จากกฏเฮดทูเฮด เนื่องจากนัดแรกที่พบกันจบลงด้วยผลเสมอ ดังนั้นบาร์ซ่าจะมี 4 แต้มจากตารางเฮดทูเฮด และแอตเลติโกจะมีเพียงแต้มเดียว อย่างไรก็ตาม เราได้เห็นสปิริตของแอตเลติโกในแชมเปี้ยนส์ลีกแล้ว โดยเฉพาะในนัดที่เจอกับเชลซีที่ลอนดอน ดังนั้นเราไม่สามารถกาชื่อพวกเขาออกได้เลย แม้จะต้องลงแข่งในคัมป์นู สนามของบาร์เซโลน่าก็ตาม และถ้าพวกเขาสามารถชนะหรือเสมอได้ พวกเขาก็จะเป็นแชมป์

    interviewer

    หลังจากที่เราพูดคุยกันถึงรอบรองฯแชมเปี้ยนส์ลีกเมื่อคราวที่แล้ว คุณรู้สึกว่าเชลซีและเรอัล มาดริด จะไปเจอกันในรอบชิงที่ลิสบอนวันที่ 24 พ.ค. คุณมองว่ารอบรองฯที่ผ่านมา 2 คู่เป็นอย่างไรบ้าง?

    เริ่มที่........แอตเลติโก มาดริด พบ เชลซี

    Figo

    ผมบอกไว้ว่าโค้ชซิเมโอเน่มีทีมที่กำลังอยู่ในช่วงท็อปฟอร์ม และพวกเขาก็พิสูจน์ให้เราเห็นกันแล้วในเกมที่ลอนดอนกับทีมที่มีประสบการณืสูงอย่างเชลซี มันเป็นฟอร์มการเล่นที่สุดยอดมากของแอตเลติโกยามพวกเขาเล่นนอกบ้าน และทีมสมควรจะได้รับเครดิตในการเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศได้


    เราได้เห็นเฟอร์นานโด ตอร์เรส ยิงใส่อดีตทีมรักของเขาอย่างแอตเลติโก มาดริด ในตอนนั้นทุกคนหวังว่าเชลซีน่าจะจบเกมที่ 1-0 ได้ แต่แอตเลติโกคิดต่างออกไป ในครึ่งหลังพวกเขาแสดงให้เห็นว่าพวกเขาเป็นทีมที่ดีกว่ามาก และเอาชนะไปได้ 3-1 ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศแชมเปี้ยนส์ลีกได้เป็นครั้งแรกในรอบ 40 ปี

    interviewer

    คู่ต่อมา....เรอัล มาดริด พบ บาเยิร์น มิวนิค

    Figo

    นี่เป็นเกมที่น่าดูชมเลยทีเดียว ด้วยการที่สองสุดยอดเกมรุกมาเจอกัน พร้อมด้วยเหล่าผู้เล่นที่ดีที่สุดในโลกมากมาย รวมทั้งลาห์ม ชไวน์สไตเกอร์ รอบเบน และริเบรี่ สำหรับฝั่งของบาเยิร์น แล้วยังมีโรนัลโด้ เบล อลอนโซ่ และเบนเซม่าจากฝั่งของเรอัล แต่ผมไม่เคยคาดว่ามาดริดจะเอาชนะอย่างง่ายดายนะ การเอาชนะ 4-0 ที่มิวนิคได้นับเป็นฟอร์มการที่ดีที่สุดในแชมเปี้ยนส์ลีกฤดูกาลนี้เลยก็ว่าได้ และนักเตะเรอัล มาดริดทั้งทีมควรจะภูมิใจกับฟอร์มเช่นนี้ ประตูใดๆก็ตามในแชมเปี้ยนส์ลีกรอบรองฯล้วนเป็นลูกที่พิเศษ แต่ลูกโหม่งทั้งสองลูกจาก เซร์คิโอ รามอส ซึ่งพาทีมขึ้นนำอย่างรวดเร็วนั้นทำให้เกมเปลี่ยนไปเลย ทำให้บาเยิร์น มิวนิคต้องกลับมาเป็นฝ่ายไล่ล่าแทน นั่นก็ไปเข้าทางกับเกมรุกสายฟ้าแลบของเรอัล มาดริด ซึ่งแสดงให้เห็นจากประตูที่ 3 ซึ่งประสานงานกันโดยเบลและโรนัลโด้

    interviewer

    และนั่นก็ทำให้คู่ชิงที่ลิสบอนในวันที่ 24 พฤษภาคมนี้คือ

    เรอัล มาดริด และ แอตเลติโก มาดริด

    คุณคิดว่าใครจะได้แชมป์ครับ?

    Figo

    เรอัล มาดริด

    อ่านหน้าถัดไป อ่านหน้าถัดไป

  • อ่านมุมมองของ หลุยส์ ฟิโก้ กับฟุตบอลโลก 2014 รอบแบ่งกลุ่ม

    interviewer

    หลุยส์ครับ ฟุตบอลลีกและฟุตบอลถ้วยในยุโรปก็ได้จบลงแล้ว และเหมือนว่าเมืองมาดริดจะกลายเป็นเมืองหลวงของฟุตบอลยุโรป แต่ตอนนี้เราจะมาดูกันที่รายการที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ฟุตบอลโลก 2014 คุณช่วยแนะนำแฟนๆดาฟาเบทของเราถึงโอกาสของแต่ละทีมในแต่ละกลุ่มหน่อยสิครับ

    Figo

    กลุ่ม A


    บราซิล, แคเมอรูน, โครเอเชีย, เม็กซิโก


    การที่เคยพาบราซิลเป็นแชมป์รายการนี้เมื่อปี 2002 โค้ชสโคลารี่คงหวังว่าจะทำได้อีกครั้งในบ้านตนเอง และการมีผู้เล่นอย่างออสการ์และเนย์มาร์ ทำให้เขามีผู้เล่นพรสวรรค์ในแนวรุกที่สามารถสร้างปัญหาให้กับทีมอื่นได้ แคเมอรูนยังมีผู้เล่นคุณภาพหลายคนที่น่าจับตาอย่าง ซามูเอล เอโต้ และ อเล็กซ์ ซง ขณะที่โครเอเชียก็พาเหรดผู้เล่นอย่าง มาริโอ มานด์ซูคิช ของบาเยิร์น มิวนิค และ ลูก้า โมดริช ของเรอัล มาดริด เม็กซิโกจะสร้างความท้าทายให้เพื่อนร่วมกลุ่มด้วยการนำของดาวเตะจากแมนชสเตอร์ ยูไนเต็ด ฮาเวียร์ เฮอร์นานเดซ ซึ่งคาดว่าน่าจะทำได้ดี


    ผมคิดว่า...


    บราซิลจะเป็นแชมป์กลุ่ม โดยเม็กซิโกตามมาเป็นอันดับสอง


    กลุ่ม B


    สเปน, ฮอลแลนด์, ชิลี, ออสเตรเลีย


    สเปนอาจจะไม่ใช่ทีมเดียวกับในฟุตบอลโลกคราวที่แล้ว แต่ความแข็งแกร่งในขุมกำลังของพวกเขายังน่าประทับใจอยู่ดี ด้วยผู้เล่นอย่างเปโดรและซิลบาเข้ามารวมกับ ชาบี้ อลอนโซ่, อิเนียสต้า และ ชาบี้ แต่มันก็น่าแปลกใจเล็กน้อยที่เห็นโค้ช บิเซนเต้ เดล บอสเก้ ยังคงใช้บริการตัวเก๋าอย่าง เฟอร์นานโด ตอร์เรส และ ดาวิด บีญ่า แทนที่จะเป็น เฟอร์นานโด ญอเรนเต้ ที่มีฤดูกาลที่ดีในการพายูเวนตุสคว้าแชมป์อิตาเลี่ยนเซเรียอา.


    ฮอลแลนด์ซึ่งโดนสเปนเอาชนะมาได้ในรอบชิงปี 2010 หวังว่าจะได้แก้แค้นตั้งแต่วันที่ 2 ของทวร์นาเมนต์เลยทีเดียว โดยทั้งคู่จะพบกันที่ซัลวาดอร์ 13 มิถุนายน ผมว่าฮอลแลนด์น่าจะเอาชนะในนัดนี้ไปได้เนื่องจากสเปนมักจะเครื่องร้อนช้า ชิลีจะเป็นทีมที่น่าจับตามอง เมื่อดูจากผลงานของพวกเขาในการเจออังกฤษเมื่อช่วงต้นปี แต่ผมมองว่าท้ายที่สุดแล้ว...


    ฮอลแลนด์จะเป็นที่ 1 ในกลุ่ม ตามมาด้วยสเปน


    กลุ่ม C


    โคลอมเบีย,กรีซ, ไอวอรี่โคสต์, ญี่ปุ่น


    นี่เป็นงานที่ไม่ยากเท่าไหร่นักสำหรับโคลอมเบีย ซึ่งจะนำโดยผู้เล่นอย่าง เอดูอาร์โด้ วาร์กาส จากบาเลนเซีย โดยเฉพาะนัดสุดท้ายที่จะเจอกับญี่ปุ่นในเมืองที่มีอุณหภูมิสูงถึง 40 องศาเซลเซียส ผมยกให้ไอวอรี่โคสต์เป็นตัวเต็งที่จะเข้าที่สอง โดยเฉพาะเมื่อพวกเขามีผู้เล่นคุณภาพอย่าง ยาย่า ตูเร่ และ ดิดิเยร์ ดร็อกบา ส่วนญี่ปุ่นนั้นก็ประมาทไม่ได้เลย เมื่อพวกเขามีผู้เล่นถึง 12 คนที่เล่นอยู่ในยุโรป เช่นคางาวะของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แต่ผมคิดว่าพวกเขาน่าจะเจอปัญหากับสภาพอากาศร้อนในบราซิล ดังนั้นผมขอเลือก...


    โคลอมเบียเป็นแชมป์กลุ่ม และไอวอรี่โคสต์เป็นที่สอง


    กลุ่ม D


    อุรุกวัย, คอสตาริกา, อังกฤษ, อิตาลี


    กลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่ถูกเรียกว่ากลุ่มแห่งความตายโดยแฟนบอลอังกฤษ เพราะพวกเขากลัวว่าทีมรักจะถูกเขี่ยตกรอบ และพวกเขาก็สมควรแล้วที่จะกังวล โดยเกมแรกจะต้องเจอกับอิตาลีในวันที่ 14 มิถุนายน ท่ามกลางป่าดงดิบอเมซอน ซึ่งอุณหภูมิอาจขึ้นไปถึง 30 ปลายๆ และความชื้นสัมพัทธ์อาจสูงถึง 90 กว่าๆ ผมคิดว่าอังกฤษสามารถเอาชนะเกมนี้ได้นะ แต่อีก 5 วันถัดมาพวกเขาต้องเจออุรุกวัยที่เซาเปาโลซึ่งอยู่ห่างออกไปกว่า 2,000 กิโลเมตร เป็นการเริ่มต้นเวิลด์คัพที่ไม่ง่ายเลย อย่างไรก็ตาม โค้ชอังกฤษได้เลือกทีมที่อายุน้อยและฟิตมาก ผลมั่นใจว่าส่วนหนึ่งเป็นเพราะทีมของเขาจะต้องเจองานหนักในรอบนี้ แฟนๆดาฟาเบทคงอยากจะเห็นผู้เล่นอย่างซัวเรซและคาวานี่ลงเล่นให้อุรุกวัย รวมถึง อันเดรีย ปิร์โล และ มาริโอ บาโลเตลลี่ ของอิตาลี


    แฟนๆอังกฤษคงหวังว่ากัปตัน สตีเว่น เจอร์ราด จะสามารถกระตุ้นทีมสิงโตหนุ่มของเขาซึ่งมีกองหน้าระดับท็อป แล้วก็ผู้เล่นอย่าง อดัม ลัลลานา, ราฮีม สเตอร์ลิ่ง และ เวย์น รูนี่ย์ พิสูจน์ตัวเองว่าพวกเขาเป็นผู้เล่นระดับโลก เป็นกลุ่มที่เดายากมาก แต่ผมรู้สึกว่า....


    อุรุกวัยจะเป็นที่หนึ่ง ส่วนอังกฤษตามเข้ารอบเป็นที่สอง


    กลุ่ม E


    สวิตเซอร์แลนด์, ฝรั่งเศส, เอกวาดอร์, ฮอนดูรัส


    เป็นอีกกลุ่มที่คาดเดาได้ยาก โดยเฉพาะเกมระหว่างสวิตเซอร์แลนด์กับเอกวาดอร์ในวันที่ 15 มิถุนายน และสวิตเซอร์แลนด์กับฝรั่งเศสในวันที่ 20 มิถุนายน ทีมตราไก่จะเจองานง่ายในเกมแรกที่จะแข่งกับฮอนดูรัสในวันที่ 15 มิถุนายน ตามด้วยเกมกับสวิส ก่อนจะเจอเอกวาดอร์ 25 มิถุนายน นี่อาจจะเป็นเกมตัดสินชะตาสำหรับทั้งสองทีม ดาวดังที่น่าจับตามองคือ อันโตนิโอ วาเลนเซีย และ เฟลิเป้ ไคเซโด้ ของเอกวาดอร์ ฟรองค์ ริเบรี่ คาริม เบนเซม่า และ พอล ป็อกบา ของฝรั่งเศส อย่างไรก็ตาม ที่น่าช็อคที่สุดคือโค้ชดิดิเยร์ของฝรั่งเศส


    เดชองส์ไม่เรียกตัว ซามิร์ นาสรี่ และ กาเอล คลีชี่ ซึ่งกูรูหลายคนรู้สึกว่าควรจะอยู่ในทีมด้วย หลังจากที่ทั้งคู่มีฤดูกาลที่ยอดเยี่ยมกับแชมป์พรีเมียร์ลีก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แต่ก็มีเสียงร่ำลือว่านาสรี่อาจจะสร้างปัญหาได้ ผมขอเดาว่า...


    ฝรั่งเศสเป็นแชมป์กลุ่ม และสวิตเซอร์แลนด์เป็นที่สอง


    กลุ่ม F


    อาร์เจนตินา, บอสเนียและเฮอเซโกวินา, อิหร่าน, ไนจีเรีย


    นี่อาจจะเป็นกลุ่มที่เบาที่สุดในทัวร์นาเมนต์ก็ว่าได้ และน่าจะทำให้สตาร์จากบาร์เซโลน่าอย่าง ลิโอเนล เมสซี่ มีโอกาสทำผลงานในระดับนานาชาติหลังจากประสบความสำเร็จมากมายในสเปน โดยเฉพาะเมื่อดูจากขุมกำลังของทีมอย่าง อังเคล ดิ มาเรีย, เซคิโอ อเกวโร และ กอนซาโล อิกวาอิน คอยสนับสนุน บอสเนียและเฮอเซโกวินาถูกตั้งขึ้นมาหลังจากการแยกของยูโกสลาเวีย และน่าจะให้โอกาสกองหน้าแมนเชสเตอร์ ซิตี้ เอดิน เซโก้ โชว์ความสามารถเหมือนกับที่เขาทำไว้ในพรีเมียร์ลีก
    แฟนๆดาฟาเบทควรจะจับตามองกองหน้าไนจีเรียอย่าง โชลา อเมโอบี้ และ วิคเตอร์ โมเสส ซึ่งจะช่วยให้ทีมจบที่สองของกลุ่มได้ โดยเฉพาะเมื่อพวกเขาคงไม่มีปัญหากับสภาพอากาศร้อนชื้น


    ผมมองว่า...


    อาร์เจนตินาจะเป็นแชมป์กลุ่ม ตามมาด้วยอันดับสองไนจีเรีย


    กลุ่ม G


    เยอรมัน, โปรตุเกส, กานา, สหรัฐอเมริกา


    เราต้องยอมรับว่าเยอรมันน่าจะเป็นทีมจากยุโรปที่มีโอกาสคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกครั้งนี้บนทวีปอเมริกาสูงที่สุด พวกเขามักจะเข้าร่วมการแข่งขันฟุตบอลโลกด้วยทีมที่แข็งแกร่งเสมอ รวมถึงในปี 2014 นี้ด้วย กับนักเตะอย่างเมซุต โอซิล, โธมัส มุลเลอร์, มาริโอ เกิทเซ และมิโรสลาฟ โคลเซ เป็นต้น และในแนวรับ พวกเขาก็มีนักเตะที่เล่นได้หลากหลายอย่างฟิลิปป์ ลาห์ม และแพร์ แมร์เตซัคเกอร์ รวมถึงบาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์อีกด้วย เกมแรกของกลุ่มนี้ระหว่างเยอรมันกับโปรตุเกส น่าจะเป็นแมตช์ที่น่าตื่นเต้น เปเป้, ฟาบิโอ โคเอนเตรา และบรูโน อัลเวส จะต้องรับมือกับแนวรุกของเยอรมัน และเราจะต้องจับตาดูว่าผู้เล่นของโปรตุเกสอย่าง นานี่และเอลเดอร์ ปอสติก้า จะสามารถประสานงานกับคริสเตียโน โรนัลโด สตาร์ของทีมได้หรือไม่ แต่เราก็ไม่ควรมองข้ามแมตช์ระหว่างกานาและสหรัฐอเมริกาเช่นกัน และเกมระหว่างเยอรมันกับกานาในสภาพอากาศที่ร้อนและชื้นในฟอร์ตาเลซาจะเป็นบททดสอบที่แท้จริงของทีมเยอรมันว่าพวกเขาแข็งแกร่งพอหรือไม่ เช่นเดียวกันกับเกมระหว่างสหรัฐอเมริกาและโปรตุเกสที่จะแข่งกันที่สนามกลางป่าในมานาอุส ก็จะเป็นเกมในสภาพแวดล้อมที่ยากลำบากและจะเป็นบททดสอบความแข็งแกร่งของทั้งสองทีมได้เป็นอย่างดี ผมมองว่า....


    เยอรมันจะเป็นแชมป์กลุ่ม ตามมาด้วยโปรตุเกส


    กลุ่ม H


    เบลเยียม, แอลจีเรีย, รัสเซีย, เกาหลีใต้


    ผมคิดว่าเบลเยียมจะเป็นอีกทีมจากยุโรปที่จะทำผลงานได้ดีในศึกฟุตบอลโลกครั้งนี้ เพราะพวกเขามีทีมที่แข็งแกร่ง อย่างเช่นกัปตันทีมแมนเชสเตอร์ ซิตี้ แว็งซองต์ กอมปานี และกองหลังจากพรีเมียร์ลีกอีกคนอย่างโธมัส แฟร์มาเลน รวมถึงแยน แฟร์ตองเก้น พวกเขายังมีเฟลไลนี, เดมเบเล่ และดาวรุ่งจากแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดอย่างยานูไซย์ในแผงมิดฟิลด์ และในแนวรุก พวกเขามีตัวอันตรายอย่างเอเด็น อาซาร์, โรเมลู ลูกากู และเควิน มิราลลาส นับว่าเป็นอีกทีมที่น่ากลัวในทัวร์นาเมนต์นี้


    เกมที่น่าสนใจในกลุ่มนี้คือเกมระหว่างเบลเยียมกับรัสเซียในวันที่ 22 มิถุนายน ที่ริโอ เดอจาเนโร ผมคิดว่าทั้งแอลจีเรียและเกาหลีใต้ต่างก็แทบจะไม่มีหวังในการเข้ารอบด้วยกันทั้งคู่ ทำให้นอกจากเบลเยียมแล้วก็จะเหลือรัสเซีย ที่มีฟาบิโอ คาเปลโล อดีตผู้จัดการทีมชาติอังกฤษคุมทีมอยู่ ที่มีโอกาสเข้ารอบ แฟนๆของดาฟาเบทควรจะจับตามองไปที่กองหน้าดาวรุ่งวัย 22 ปีของรัสเซีย อเล็กซานเดอร์ โคโคริน จากสโมสรดินาโม มอสโคว เค้าคือคนที่ผู้เชี่ยวชาญยกให้เป็นดาวเตะแห่งอนาคตเลยทีเดียว


    ผมคิดว่า...


    เบลเยี่ยมจะเป็นแชมป์กลุ่ม ตามมาด้วยรัสเซีย

    interviewer

    ฟังดูน่าตื่นเต้นมากครับหลุยส์ แล้วคุณคิดว่าใครจะได้รางวัลโกลเด้น บูท ล่ะ?

    Figo

    ผมนึกถึงชื่ออย่างเมสซี, โรนัลโด และก็โจ แต่ผมเชื่อว่ามิโรสลาฟ โคลเซ กองหน้าจากเยอรมันจะได้รางวัลนี้ไป

    อ่านหน้าถัดไป อ่านหน้าถัดไป

  • อ่านทัศนะของหลุยส์ ฟิโก้ต่อรอบแบ่งกลุ่มฟุตบอลโลก 2014

    interviewer

    หลุยส์ การแข่งขันดำเนินมาถึงครึ่งทางของรอบแบ่งกลุ่มแล้ว คุณมีความเห็นอย่างไร และผลการแข่งนัดไหนที่ทำให้คุณประหลาดใจบ้าง

    กลุ่ม A

    บราซิล, แคเมอรูน, โครเอเชีย, เม็กซิโก

    Figo

    ดูเหมือนว่าบราซิลจะเข้ารอบเป็นที่หนึ่งของกลุ่ม ถึงแม้ว่าพวกเขาจะทำได้เพียงแค่เสมอกับเม็กซิโกไปแบบไร้สกอร์ในการแข่งนัดที่สอง และตำแหน่งที่สองยังคงเปิดกว้าง โดยสองทีมที่แย่งตำแหน่งนี้อยู่อย่างเม็กซิโกกับโครเอเชียจะลงแข่งกันในเกมสุดท้าย วันจันทร์ที่ 23 พอดี ผมมีความรู้สึกว่า...

    บราซิลจะเข้ารอบเป็นที่ 1 และเม็กซิโกจะตามไปเป็นที่ 2

    interviewer

    กลุ่ม B

    สเปน, ฮอลแลนด์, ชิลี, ออสเตรเลีย

    Figo

    ผมทำนายไว้ว่าฮอลแลนด์จะเอาชนะสเปนได้ในนัดแรกของกลุ่มนี้ แต่ผมไม่คิดว่าจะเป็นเกมที่สเปนโดนถล่มไปถึง 1-5 ประตู ผมคิดว่าผลการแข่งจะไม่เป็นแบบนี้ ถ้าดาบิด ซิลบาทำประตูได้ตอนที่เขาหลุดไปดวลเดี่ยวกับผู้รักษาประตู ให้สเปนนำเป็น 2-0 ในครึ่งแรก หลังจากนั้น สเปนก็แพ้ต่อชิลีอีกในเกมที่สองของพวกเขา และจากการพ่ายแพ้สองนัดติด แชมป์เก่าก็ต้องตกรอบไป ส่วนฮอลแลนด์พลิกจากที่โดนนำถึงสองครั้ง เก็บสามแต้มจากออสเตรเลียไปได้ ทำให้พวกเขามีทั้งหมด 6 แต้มเท่ากับชิลี และเราจะได้ดูเกมสุดท้ายของกลุ่มที่น่าสนใจระหว่างสองทีมนี้ในวันจันทร์ที่ 23 เพราะเป็นเกมที่ทั้งคู่จะต้องแย่งกันเป็นที่ 1 ของกลุ่ม เพราะทีมอันดับที่ 2 น่าจะได้พบกับบราซิลเจ้าภาพในรอบต่อไปค่อนข้างแน่นอน ผมคิดว่า...
    ฮอลแลนด์จะเข้ารอบเป็นที่ 1 ตามมาด้วยชิลี

    interviewer

    กลุ่ม C

    ในกลุ่ม C คุณทำนายว่าโคลอมเบียจะเข้ารอบเป็นที่ 1 และดูเหมือนว่าคุณจะทำนายได้ถูกต้อง

    Figo

    ใช่แล้ว ผมคิดว่าผมไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนคำทำนายของผมต่อผลของกลุ่มนี้
    โคลอมเบียจะเข้ารอบเป็นที่ 1 ตามมาด้วยไอวอรี่โคสต์

    interviewer

    กลุ่ม D

    อุรุกวัย, คอสตาริกา, อังกฤษ, อิตาลี

    Figo

    ความกลัวของแฟนบอลอังกฤษว่าการที่พวกเขาได้มาอยู่ใน “กลุ่มแห่งความตาย” นี้จะทำให้ทีมสิงโตคำรามทำผลงานได้ไม่ดี และมันก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ

    ใช่แล้ว หลังจากที่พวกเขาพ่ายแพ้ต่ออิตาลีและอุรุกวัยสองนัดติด อังกฤษก็เป็นอีกทีมที่ต้องเก็บกระเป๋ากลับบ้านไปก่อน โดยเกมแรกอิตาลีทำผลงานได้น่าประทับใจมากในเกมพบกับอังกฤษ โดยเฉพาะอันเดรีย ปีร์โลที่คุมแดนกลางไว้ได้อยู่หมัด และในเกมที่สองเราก็ได้เห็นหลุยส์ ซัวเรสที่โชว์ความเป็นกองหน้าระดับโลก คว้าชัยชนะให้ทีมของตนได้ หลังจากนั้นก็เกิดเรื่องช็อคขึ้น เมื่อคอสตาริกาเอาชนะอิตาลีไปได้ 1-0 เมื่อวันศุกร์ สถานการณ์ของกลุ่มนี้จึงถือว่าอยู่นอกเหนือการคาดการณ์ไปอย่างมาก คือเราได้คอสตาริกาเป็นทีมที่เข้ารอบไปแล้วแน่นอน และมันก็ค่อนข้างยากที่จะทายว่าทีมไหนจะตามเข้าไป ซึ่งเราจะได้รู้กันในวันอังคารที่ 24 มิถุนายน โดยในเกมสุดท้าย อังกฤษจะพบคอสตาริกา และอิตาลีจะพบอุรุกวัย
    ผมขอเปลี่ยนคำทำนายของกลุ่มนี้ว่า...

    อุรุกวัยจะเข้ารอบเป็นที่ 1 และคอสตาริกาจะตามไปเป็นที่ 2

    interviewer

    กลุ่ม E

    สวิตเซอร์แลนด์, ฝรั่งเศส, เอกวาดอร์, ฮอนดูรัส

    Figo

    เป็นไปตามที่คาดไว้ เมื่อฝรั่งเศสเก็บชัยชนะเหนือฮอนดูรัสได้ในนัดแรก และสวิตเซอร์แลนด์ก็ตามมาด้วยการเอาชนะเอกวาดอร์ ต่อมาฝรั่งเศสก็ถล่มสวิตเซอร์แลนด์ไปด้วยสกอร์ 5-2 ทำให้โอกาสเข้ารอบของทีมตราไก่ค่อนข้างสดใส สำหรับกลุ่มนี้ ผมยังยืนยันคำทำนายเดิมของผมคือ...

    ฝรั่งเศสจะเป็นแชมป์กลุ่ม ตามมาด้วยสวิตเซอร์แลนด์

    interviewer

    กลุ่ม F

    อาร์เจนตินา, บอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา, อิหร่าน, ไนจีเรีย

    Figo

    อาร์เจนตินาเอาชนะบอสเนียและเฮอร์เซโกวีนาได้ 2-1 ขณะที่อิหร่านเสมอกับไนจีเรียไปแบบไร้สกอร์ อย่างไรก็ตาม ผมรู้สึกประทับใจฟอร์มการเล่นของบอสเนียฯ ผมรู้สึกว่าพวกเขาน่าจะสร้างเซอร์ไพรส์ได้ในสองเกมต่อไปกับไนจีเรียและอิหร่าน ผมจะเปลี่ยนคำทำนายของผมเป็น...

    อาร์เจนตินาจะเป็นแชมป์กลุ่ม ตามมาด้วยบอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา

    interviewer

    กลุ่ม G

    เยอรมัน, โปรตุเกส, กานา, สหรัฐอเมริกา

    Figo

    เยอรมันเล่นได้อย่างน่าประทับใจในเกมที่ถล่มโปรตุเกสไป 4-0 แต่ผมมองว่าใบแดงที่กรรมการแจกให้เปเป้นั้นดูจะโหดร้ายเกินไปหน่อย ทำให้โปรตุเกสที่เหลือ 10 คนไม่สามารถต้านทานเยอรมันไว้ได้ โดยเฉพาะมุลเลอร์ที่ทำแฮททริกแรกของฟุตบอลโลกครั้งนี้ สหรัฐอเมริกาก็เก็บชัยชนะ 2-1 เหนือกานาไว้ได้ ดังนั้นเกมระหว่างโปรตุเกสและอเมริกาในวันอาทิตย์ที่ 22 จะเป็นเกมที่กำหนดว่าใครจะได้เข้ารอบตามทีมอินทรีเหล็กไป
    ผมยังยืนยันคำทำนายว่า...

    เยอรมันจะเข้ารอบเป็นที่ 1 ตามมาด้วยโปรตุเกส

    interviewer

    กลุ่ม H

    เบลเยียม, แอลจีเรีย, รัสเซีย, เกาหลีใต้

    Figo

    เบลเยียมเอาชนะแอลจีเรียได้ตามคาด 2-1 ส่วนรัสเซียเสมอกับเกาหลีใต้ไป 1-1 เกมระหว่างเบลเยียมกับรัสเซียในวันอาทิตย์ที่ 22 จะเป็นเกมที่น่าสนใจและจะเป็นเกมตัดสินว่าใครจะเป็นแชมป์กลุ่ม ส่วนผมจะยังคงยืนยันคำทำนายเดิมคือ...
    เบลเยียมจะเป็นแชมป์กลุ่ม H ตามมาด้วยรัสเซีย

    อ่านหน้าถัดไป อ่านหน้าถัดไป

  • อ่านความคิดเห็นของ หลุยส์ ฟิโก้ เกี่ยวกับรอบน็อคเอาท์ในฟุตบอลโลก 2014


    จันทร์ที่ 30 มิถุนายน


    interviewer

    ฝรั่งเศส พบ ไนจีเรีย

    Figo

    ฝรั่งเศสกลายมาเป็น หนึ่งในทีมเต็งแชมป์หลังเล่นเป็นทีมได้อย่างยอดเยี่ยม ส่วนไนจีเรียก็เป็นหนึ่งในทีมที่สร้างเซอร์ไพรส์ในทัวร์นาเมนต์นี้ แม้ว่าจะคาดเดาได้ยากก็ตาม แต่ผมคิดว่านี่น่าจะเป็นเกมที่สูสี และฝรั่งเศสจะเอาชนะไปได้...
    1 - 0

    interviewer

    เยอรมัน พบ แอลจีเรีย

    Figo

    ส่วนตัวแล้วผมคิดว่าเยอรมันน่าจะไปได้ไกลถึงรอบชิง และแอลจีเรียก็ทำให้หลายๆคนรวมถึงตัวพวกเขาเองต้องเซอร์ไพรส์ที่ผ่านเข้ารอบ 16 ทีมได้สำเร็จ อินทรีเหล็กน่าจะเอาชนะได้แบบสบายๆ ผมทายว่าพวกเขาจะชนะ...
    2 - 0


    อังคารที่ 1 กรกฎาคม


    interviewer

    อาร์เจนติน่า พบ สวิตเซอร์แลนด์

    Figo

    อาร์เจนติน่าได้เมสซี่ช่วยเอาไว้ได้ แต่พวกเขายังเล่นเป็นทีมได้ไม่ดีนัก และกองหลังดูอ่อนอีกด้วย กองหน้าสวิสอย่างชาคีรี่ก็กำลังเล่นได้เข้าฟอร์ม และเขาดูฟิตมากๆด้วย โดยเฉพาะเกมที่ทำแฮตทริกได้ เราอาจจะได้เซอร์ไพรส์กันในนัดนี้ และผมคิดว่ามีสิทธิ์ต้องดวลจุดโทษกันเลย ผมมองว่าสกอร์ 90 นาทีจะจบที่...
    1 - 1

    interviewer

    เบลเยี่ยม พบ สหรัฐอเมริกา

    Figo

    เบลเยี่ยมมีผู้เล่นดาวดังมากมาย แต่พวกเขาก็ต้องเล่นให้เป็นทีมมากกว่านี้หากต้องการจะลุ้นแชมป์ สหรัฐอเมริกาเล่นได้ดีขึ้นเรื่อยๆในแต่ละนัด แต่ผมไม่คิดว่าพวกเขาจะเอาชนะเบลเยี่ยมได้ในนัดนี้ ผมว่าเราน่าจะเห็นเบลเยี่ยมชนะไปได้...
    2 -1

    อ่านหน้าถัดไป อ่านหน้าถัดไป

  • อ่านบทสัมภาษณ์รอบ 8 ทีมสุดท้าย บอลโลก 2014 จากหลุยส์ ฟิโก้

    interviewer

    หลุยส์ ฟิโก้

    หลายแมตช์ที่ผ่านมา ผมเห็นว่าหลายคนพูดถึงเกมการแข่งขันที่เน้นไปที่เกมรับ โดยผมคาดว่าในการแข่งขันรอบ 8 ทีมสุดท้ายก็คงไม่แตกต่างที่แต่ละทีมจะเน้นเกมรับมากกว่าเกมรุกครับ

    วันศุกร์ที่ 4 กรกฎาคม 2014

    Figo

    บราซิล พบ โคลอมเบีย (จบเกม นาทีที่ 90 ที่สกอร์ 1-1)

    โคลอมเบียเป็นทีมที่ผมว่าเหนือความความหมายสำหรับบอลโลกปีนี้ครับ เส้นทางบอลโลกของโคลอมเบียปีนี้ผมว่าน่าประทับใจมากๆ สำหรับบราซิล ทีมนี้ก็เล่นแบบทุ่มสุดตัวอยู่แล้ว ด้วยเหตุผลนี้ผมคิดว่าคู่นี้น่าจะมีการต่อเวลา Extra Time และไม่แน่นะครับ สุดท้ายโลอมเบียอาจจะเอาชนะที่ 2-1 ก็ได้นะผมว่า

    ฝรั่งเศส พบ เยอรมัน (จบเกมที่สกอร์ 1-2)

    แมตช์นี้น่าจะเป็นแมตช์ที่น่าติดตามที่สุด ระหว่างทีมตัวเต็งทั้งสองจากฝั่งยุโรป ฝรั่งเศสมาได้ไกลกว่าที่ผมคาด ส่วนเยอรมันผมคิดว่าตอนนี้พวกเค้ากำลังได้ที่ เหมือนเครื่องยนต์ที่ทำงานร่วมกันได้อย่างดี ผมว่าเยอรมันน่าจะชนะที่ 2-1 โดยการทำประตูจาก มุลเลอร์ และ มาริโอ เกทเซ่

    วันเสาร์ที่ 5 กรกฎาคม 2014

    เนเธอร์แลนด์ พบ คอสตาริกา (จบเกมที่สกอร์ 2-0)

    คอสตาริกาเป็นอีกทีมที่ผมไม่คาดคิดว่าจะผ่านเข้ามาในรอบลึกๆได้เช่นนี้ และในแมตช์ต่อไป เค้ากำลังจะพบกับทีมที่เร็วและเก่งที่สุดคือทีมเนเธอร์แลนด์ แม้ว่าเค้าจะเอาชนะเม็กซิโกมาได้จากการได้ยิงลูกโทษ จากการตัดสินของกรรมการก็ตาม แต่ยังไงผมว่าในแมตช์นี้เนเธอร์แลนด์น่าจะเอาชนะไปได้ที่สกอร์ 2-0

    อาร์เจนตินา พบ เบลเยียม (จบเกมนาทีที่ 90 ที่สกอร์ 1-1)

    เบลเยียมผมว่าเป็นทีมที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความสามารถและการเล่นกันเป็นทีม จนท้ายที่สุดสามารถเอาชนะอเมริกาและสามารถผ่านเข้ามาสู่รอบนี้ได้ สำหรับอาร์เจนตินา ผมว่าเค้ายังไม่เข้าขากันดีเท่าไหร่ โดยเฉพาะ เมสซี่ กับ ดิ มาเรีย ผมคิดว่าเกมนี้น่าจะจบลงที่ 1-1 ในนาทีที่ 120 และท้ายที่สุดเบลเยียมน่าจะเอาชนะจากการยิงลูกโทษ

    อ่านหน้าถัดไป อ่านหน้าถัดไป

  • อ่านบทสัมภาษณ์รอบ 4 ทีมสุดท้าย สดๆร้อนๆ จากหลุยส์ ฟิโก้

    interviewer

    รอบสี่ทีมสุดท้ายใกล้เข้ามาแล้ว ผมคิดว่าเราควรกล่าวคำยินดีสำหรับทุกทีมที่ไม่ได้ผ่านเข้ามาในรอบ 4 ทีมสุดท้ายนะครับ ว่าพวกเค้าทำได้ดีที่สุดแล้ว ไม่ว่าจะเป็นฝรั่งเศสที่กลับบ้านไปเพราะเสียประตูจากนักเตะกองหน้าที่กลับชาติมาเกิดเป็นกองหลังอย่าง ฮัมเมลส์ ทีมชาติโคลอมเบีย ที่สามารถโชว์ผลงานได้อย่างน่าประทับใจตลอดการแข่งขันแม้ว่าสุดท้ายต้องพ่ายแพ้ให้กับเจ้าถิ่นอย่างบราซิลจากลูกฟรีคิกจากดาวิด หลุยส์ ทีมชาติเบลเยียมที่ไม่สามารถเอาชนะอาร์เจนตินาได้ และคอสตาริกาที่พ่ายแพ้ในการยิงลูกโทษ

    และการแข่งขันรอบสี่ทีมสุดท้าย กำลังจะเริ่มขึ้นแล้วในคืนวันอังคารนี้

    บราซิล พบ เยอรมัน

    Figo

    ในแมตช์นี้ผมว่าเราจะได้เห็นการปะทะกันอย่างสูสีระหว่างบราซิลและเยอรมันแน่นอน บราซิลลงแข่งนัดนี้พร้อมกับหวังที่จะคว้าชัย เพื่อเอาใจกองเชียร์ทุกคนที่จะได้เชียร์ทีมชาติตนเองในนัดชิง แต่ผมกลับมองว่าเป็นได้ว่าในนัดนี้ ความฝันอาจจะพลิกล็อค และชัยชนะน่าจะถูกเยอรมันคว้าไป โดยผมคิดว่าเกมส์นี้สกอร์น่าจะจบที่สกอร์ 2-1

    interviewer

    อาร์เจนตินา พบ เนเธอร์แลนด์

    Figo

    ในแมตช์นี้เรามีกองหน้าที่ดีที่สุดในศึกบอลโลก นั่นคือ เมสซี และ ร็อบเบน ทั้งคู่น่าจะโชว์ฟอร์มเต็มที่ เพื่อที่จะพาทีมไปยังรอบชิงชนะเลิศ ผมคิดว่าแมตช์นี้ชัยชนะน่าจะตกไปอยู่ในมือของฮอลแลนด์ครับที่สกอร์ 2-1 ครับ

    อ่านหน้าถัดไป อ่านหน้าถัดไป

  • บทสัมภาษณ์ฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย กับ หลุยส์ ฟิโก้อ่านบทสัมภาษณ์รอบสุดท้าย จาก หลุยส์ ฟิโก้

    interviewer

    หลุยส์ เป็นอย่างไรบ้างครับ กับการที่คุณเห็นการแข่งขันในรอบ 4 ทีมสุดท้ายที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นแมตช์ที่ยิงกันถล่มทลายหรือแมตช์ที่ต้องตัดสินด้วยการยิงลูกโทษ

    Figo

    อย่างที่ผลออกมาระหว่างการพบกันของสองทีมยักษ์ใหญ่บราซิลกับเยอรมัน แน่นอนครับว่าถ้าคุณคือกองเชียร์ทีมเยอรมัน แมตช์นี้จะเป็นแมตช์ที่น่าจดจำของคุณ แต่ผมคิดว่าคงใช่แมตช์ที่น่าจดจำของชาวบราซิล 200 ล้านคนแน่นอน โดยเฉพาะกองเชียร์ที่ไปเชียร์ที่ขอบสนามในวันนั้น คุณคงไม่ต่างจากผมที่เห็นภาพกองเชียร์ร้องไห้เป็นพันๆคน แน่นอนครับความพ่ายแพ้สามารถเกิดขึ้นได้ แตไม่ใช่การพ่ายแพ้ที่สกอร์ 7-1 ผมว่าสิ่งนี้แหละที่ทำให้หัวใจของกองเชียร์แหลกสลาย แต่ไม่ว่ายังก็ตาม อย่างที่ผมบอกไปตั้งแต่ตอนเริ่มต้น ส่วนตัวแล้วผมไม่ประทับใจฟอร์มการเล่นของบราซิล รวมถึงรูปแบบเกมรับที่ใช่ในเกมนี้ ผมคืดว่าก็เป็นสิ่งที่เหมาะสมในการหมดโอกาสคว้าถ้วยของบราซิลในบอลโลกครั้งนี้

    แต่ในอีกแมตช์ที่แตกต่างกันที่ผลออกมาไม่ได้น่าตื่นเต้นเท่าไหร่นัก ไม่ว่าจะเป็นการเล่นที่แสนจะธรรมดาของเมศซี่ หรือ รอบเบนและเพอร์ซี่ก็ไม่สามารถทำประตูได้ในการแข่งขัน สุดท้ายเกมส์กลับมาลงเอยด้วยการยิงลูกโษษและทีมกังหันลมต้องพ่ายไป จากการเสียลูกโทษของ ฟลาร์และสไนเดอร์

    interviewer

    แล้วคุณมีความคิดเห็นอย่างไรกับ 2 แมตช์สุดท้าย ขอเริ่มจากแมตช์ชิงที่ 3 บราซิล กับเนเธอร์แลนด์ครับ

    Figo

    ผมคิดว่าการกลับมาเจอกันของ 2 ทีมที่เพิ่งพบกับความพ่ายแพ้ ความเจ็บช้ำมาอย่างหนักหน่วง ไม่ว่าจะเป็นบราซิลหรือเนเธอร์แลนด์ ผมไม่คิดว่าพวกเค้าจะกลับมาโชว์ฟอร์มได้อยางยอดเยี่ยม แมตช์นี้อาจจะจบลงที่การแข่งขันกันเต็ม 120 นาที และตัดสินแพ้ชนะจากการยิงจุดโทษก็ได้

    ผมคิดว่าผลการแข่งขันน่าจะจบลงที่ เนเธอร์แลนด์ชนะที่สกอร์ 2-1

    แมตช์สุดท้ายในอีกหนึ่งแมตช์ ผมคิดว่าเยอรมันเป็นทีมที่มีการเล่นที่ยอดเยี่ยมตั้งแต่เริ่มต้นการแข่งขันบอลโลก ส่วนอาร์เจนตินาก็ไม่มีอะไรที่ดูแล้วน่าประทับใจ นอกจากมีตัวเล่นหลักๆ อย่าง เมสซี่ ผมคิดว่าเกมนี้อยู่ที่ว่าใครจะสามารถทะลวงกองกลางของอีกฝ่ายได้ก่อน ถ้าหากในนัดนี้เยอรมันทำได้ดีอย่างในนัดที่เจอกับบราซิลเป็นได้ว่าเยอรมันจะคว้าถ้วยกลับบ้าน แต่ก็ไม่สามารถประมาทเมสซี่ได้เช่นกัน ถ้าหากเค้าสามารถหาช่องว่างได้เค้าอาจจะพลิกเกมและคว้าถ้วยมาแทนเยอรมันก็ได้ การเจอกันในปี 1986 อาร์เจนตินาเอาชนะที่ 3-2 และในการเจอกันในปี 1990 เยอรมันเอาชนะได้ที่ 1-0 และนั่งเป็นครั้งล่าสุดที่ทั้งสองทีมได้เป็นแชมป์บอลโลก

    ในศึกบอลโลกปีนี้ ผมคิดว่าเยอรมันจะคว้าถ้วยกลับบ้าน ด้วยสกอร์ 2-1

    อ่านหน้าถัดไป